เมื่อแม่แฮมเตอร์ท้อง ทำไงดีหว่า?

แม่แฮมเตอร์ท้อง ดูแลยังไงดี

          เมื่อแม่แฮมเตอร์ท้องสิ่งแรกที่เราควรดูคือ...วิธีการดูว่าน้องเค้าท้องหรือเปล่า
วิธีการดูหนูแฮมเตอร์ท้องงงงงงง คือ ท้องเค้าจะกางและตึงกว่าปกติ(แน่นอนอยู่ละก็มีลูกนิเนอะ >< )
ถ้าเอามือคลำ(เบาๆนะจ๊ะ) จะรู้สึกได้ว่ามันมีก้อนๆอะไรอยู่ในท้องนิดๆ นั้นละลูกของเค้า เย้ๆๆๆ \></
แต่เราไปคลำดูท้องทุกวันคงไม่ไหว เลยมีวิธีสังเกตตอนท้องอ่อนๆง่ายๆที่แสดงออกมานั้นคือ...
...ดูและนอนมากขึ้น ไล่กัดตัวผู้แง่งๆๆๆ(ปกติไม่ควรจะเลี้ยงรวมกันนะ เพราะช่วงท้องเค้าจะต้องการอยู่ตัวเดียวและป้องกันการท้องซ้ำ ทำให้แม่แฮมเตอร์อาจกินลูกตัวเองหรือเหนื่อยที่คลอดหลายท้อง ทำให้ตายได้คะ)
...นำอาหาร ขี้เลื้อย กระดาษทิชชูมาทำรัง โดยจะใช้ทำรังไว้นอนและไว้ทำรังให้ลูก

         ถ้าดูจนมั่นใจแล้วว่าท้อง เราควรจะดูแลมันยังไงดีล่ะ?
...เราควรแยกตัวเมียกับตัวผู้ออกก่อนเลย บัดนาว!!! (มันควรจะแยกนานละ ตั้งแต่หลังโซเดมาคอม)
...อาหารที่เราควรเสริมให้เค้ากิน
          พวกผัก เช่น บวบเหลี่ยม
          พวกผลไม้ จะให้วิตามันกับน้อง (แต่กินมากไปท้องเสียได้นะ)
          ไข่แดงต้มสุก เพิ่มโปรตีนๆๆ แต่ถ้าน้องกินไม่หมดให้เก็บทิ้งไม่งั้นมดจะขึ้นแล้วกัดน้องได้จ้า
          พวกเนื้อ อันนี้ให้พวกเนื้อหมูชิ้นเล็ก
นะคะ (ให้นิดๆๆๆๆเดียวพอนะ)

เราพยายามดูแลเค้าดีๆนะคะ เค้าจะตั้งท้องไม่นานคะ ประมาณ 15-25 วัน (แล้วแต่พันธ์ของน้องนะคะ)

ถ้าเท้าน้องบวม ทำไงดี

หลายคนที่เลี้ยงแฮมเตอร์คงจะเคยมีประสบการณ์ที่ว่า น้องแฮมเตอร์ของตัวเองเท้าบวมขึ้นมาเฉยๆ
อาจจะมีสาเหตุมาจากหลายๆๆๆอย่าง แต่ที่แน่ๆคือ น้องเค้าเท้าบวมแล๊ววววว!!
     แล้วจะทำยังไงเมื่อเท้าน้องบวม
สิ่งที่ต้องทำคือ ห้าม ทายาหรือใส่ยาให้น้องแฮมเตอร์ เพราะน้องเค้าจะเลียยาแล้วเป็นอันตรายได้
ควรรอดูอาการเค้าซัก 2-4 วัน ปกติจะหายไปเอง แต่ถ้าดูแล้วน้องแย่แน่ๆ แนะนำให้ไปหาหมอคะแต่!!ห้ามหาหมอสัตว์ใหญ่นะคะ เพราะเค้าไม่ได้จบเรื่องการรักษาสัตว์ตัวเล็กๆมาโดยตรง หมออาจจะฉีดยาหรือให้ยาเกินขนาดจะทำให้น้องช็อคตายได้คะ ดังนั้น ต้องเป็นหมอสำหรับสัตว์เล็กเท่านั้นนะจ๊ะ

แถมมมม โรงพยาบาลสำหรับสัตว์เล็ก เช่น โรงพยาบาลใน ม.เกษตร และ ม.จุฬา (แต่ผู้เลี้ยงบางท่านบอกว่าที่นี้ไม่ค่อยดีนักเรื่องการรักษา)  -*-

อารหารแฮมเตอร์

สิ่งที่ควรทราบในการให้อาหารแฮมสเตอร์
1. อย่าให้ผักสด หรือผลไม้สดบ่อยๆหรือมากเกินไป การให้ผักสดควรให้แค่สัปดาห์ละครั้งเพราะอาจจะทำให้แฮมสเตอร์ท้องอืด หรือท้องเสียได้และหากมันกินไม่หมดควรจะเก็บทิ้งทันที
2. พยายามอย่าเปลื่ยนอาหารแบบทันทีทันใด ควรจะค่อยๆ เปลื่ยนอาหารโดยเอาอาหารเก่า ผสมกับอาหารใหม่ และเพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่ให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทนที่อาหารเก่าในที่สุด อย่าเปลื่ยนแบบฉับพลัน
3. ห้ามให้แฮมเตอร์กินช็อคโกแลต เพราะมีสาร Theobromine ซึ่งเป็นพิษต่อแฮมสเตอร์ได้
4. หลีกเลื่ยงผักผลไม้ ที่มีรสเปรี้ยวๆ เช่น มะนาว ส้ม สับปะรด เป็นต้น อาจจะทำให้แฮมเตอร์ท้องเสียได้
5. อาหารที่ไม่ปลอดภัยสำหรับแฮมสเตอร์ ได้แก่ หัวหอม มันฝรั่งดิบ กระเทียม น้ำอัดลม ลูกกวาด เป็นต้น
6. หลีกเลี่ยงอาหารที่แหลมคม หรือ เหนียวหนืด
7. หลีกเลี้ยงขนมหรืออาหารหวานๆเพราะแฮมสเตอร์แคระมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้(ในแฮมเตอร์ทุกสายพันธืมีเบาหวานติดตัวมาอยู่แล้ว)
8. หลีกเลี่ยง อาหารเม็ดของกระต่าย เพราะบางชนิดใส่สารอาหารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้น การเจริญเติบโตในกระต่าย แต่เป็นอันตรายต่อแฮมสเตอร์
9. หลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเพรา
10. ห้ามกินพืชตระกูลถั่ว

.....อาหารที่แฮมเตอร์กินได้ และควรกิน.....
     อาหารที่หาได้ทั่วไป ในครัวก็มี : งาขาว งาดำ ลูกเดือย ข้าวกล้อง ข้าวเปลือก ข้าวบาเล่ย์ ข้าวโอ๊ด
     อาหารที่ซื้อได้ตาม pets shop เม็ดฮวยมั้ว มิลเล็ต ข้าวไรท์ ข้าวฟ่าง ทานตะวัน
     อาหารยี้ห้อต่างๆที่เพื่อแฮมเตอร์โดยเฉพาะ :
VERSELE : hamster-complete , hamster-nature , hamster-crispy
อื่นๆ : Buddy, rapster

.....ประเภทขนม.....
     ไข่ผง หนอนนกอบแห้ง เยลลี่ของแฮมเตอร์ ขนมปังของแฮมเตอร์

.....ประเภทผัก.....
     แนะนำให้ทาน >>>> บวมเหลี่ยม ข้าวโพดดิบ ฟักทองดิบ บล็อคโคลี่

ห้ามอาบน้ำ!!!

ห้ามจับหนูแฮมเตอร์อาบน้ำ!!!!

         หลายคนเข้าใจผิดว่าหนูแฮมเตอร์ต้องอาบน้ำให้เค้าเป็นประจะเพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัย  แต่ความจริงแล้ว เรา ไม่ต้องอาบน้ำให้แฮมเตอร์ เพราะจะทำให้เค้าป่วย เสี่ยงต่่อการเป็นโรคปอดและโรคทางเดินหายใจ และอื่นๆอีกมากมายที่จะตามมา
         หากเราต้องการทำความสะอาดแฮมเตอร์น้อยของเรา เราควรจะทำความสะอาดด้วยทรายของแฮมเตอร์ที่มีขายตามร้านค้า pet shop ทั่วไป ซึ่งส่วนมากจะนิยมที่ยี้ห้อ Buddy .. แฮมเตอร์จะทำความสะอาดตัวมันเองด้วยการคลุกตัวไปมาอยู่บนทรายเพื่อทำความสะอาดเอง

ทราย ยี้ห้อบัดดี้

         ถ้าเกิดน้องแฮมเตอร์ของเรามีกลิ่นตัวเหม็นก็อาจเกิดจากการนอนทับฉี่ตัวเอง(ส่วนมากหนูแฮมเตอร์เป็นพวกรักความสะอาด การที่น้องแฮมเตอร์นอนทับฉี่ตัวเองอาจเป็นเพราะอากาศร้อน) กลิ่นตัวจากการที่น้องนอนทับฉี่ตัวเอง แก้ได้โดย เปลี่ยนขี้เลื่อย ทำความสะอาดกรง แล้วก็ใส่ทรายของแฮมเตอร์ให้เค้าคลุกตัว แค่นี้ก็ดับกลิ่นเค้าได้แล้วจ้า

ประวัติแฮมเตอร์

ประวัติแฮมเตอร์

         แฮมเตอร์เป็นสัตวจำพวกฟันแทะ(Rodent) ขนาดเล็ก สัตว์ในจำพวกนี้ได้แก่ บีเวอร์ กระรอก กระต่าย และชินชิลล่า เป็นต้น
         ย้อนไปเมื่อ ปีพ.ศ. 2382 ได้มีการค้นพบแฮมสเตอร์พันธุ์ซีเรียสีทองที่ประเทศซีเรีย โดยนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ และได้นำกลับไปยังสวนสัตว์ลอนดอน จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นแฮมสเตอร์ในธรรมชาติอีกเลย จนบางคนคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ต่อมา แม่แฮมเตอร์และลูกๆอีก 12 ตัวได้ถูกพบที่บริเวณประเทศซีเรียอีกเช่นเคย โดย Professor I.Aharoni จาก Hebrew University เมืองเยรูซาเล็ม ครั้งนี้พวกมันถูกพาตัวไปยังเยรูซาเล็ม แต่ก็เหลือรอดเพียง 3 ตัวเท่านั้น คือตัวเมีย 2 ตัว และตัวผู้อีก 1 ตัว และนี่ก็คือบรรพบุรุษทั้ง 3 ของแฮมสเตอร์เลี้ยง ซึ่งได้ทำหน้าที่สืบเผ่าพันธุ์น่ารักๆไว้ให้เราได้รู้จักกันในปัจจุบัน ในระยะแรกๆ แฮมสเตอร์เข้าสู่ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนักวิทยาศาสตร์ใช้เป็นสัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น กระทั่งมีผู้เห็นว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดู จึงเริ่มนำออกมาเลี้ยงเป็นสมาชิกตัวหนึ่งในบ้าน และได้รับความนิยมในหมู่ผู้รักสัตว์เลี้ยงตั้งแต่นั้นมา